สาเหตุเทียนหอมจึงกลายเป็นไอเทมที่นิยมมากในยุคนี้และขายดี มีราคาสูง
ไอเทมที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในช่วงนี้ คงจะหนีไม่พ้น “เทียนหอม” แน่นอนเพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็เริ่มมองเห็นเทียนหอมวางขายอยู่เต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton ที่ตั้งราคาเทียนหอมสูงถึงหลักหมื่นถึงแม้จะเป็นไอเทมที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยังคงมีคนซื้ออยู่เรื่อยๆ
แล้วทำไมไอเทมที่ให้กลิ่นหอมนี้ ถึงกลายเป็นที่นิยม?
เหตุผลแรกเลยก็คือ “ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้” ปัจจุบันผู้คนมีอัตราความเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างในปี 2562 กรมสุขภาพจิตได้ออกมาเปิดเผย ว่ามีวัยรุ่นเข้ามาขอคำปรึกษาจำนวนมาก ประมาณ 10,000 สาย ซึ่งเกินกว่าครึ่ง คือ ปัญหาความเครียดและวิตกกังวล
เมื่อคนเรามีความเครียด เราก็ย่อมหาช่องทาง เพื่อระบายความเครียดเหล่านั้น Aromatherapy หรือ การบำบัดด้วยกลิ่น จึงเป็นอีกทางออกหนึ่งที่ผู้คนเริ่มหันมาสนใจและการจุดเทียนหอมก็เปรียบเสมือนกับ การได้ให้เวลากับตัวเอง ได้หยุดพักจากเรื่องอื่นๆ
ซึ่งกลิ่นที่มีส่วนช่วยในการผ่อนคลาย จะมีกลิ่นมิโมซา เนโรลี (ดอกต้นส้ม) และดอกมะลิหรือสำหรับคนที่มีปัญหาในการนอนหลับ กลิ่นลาเวนเดอร์ก็เป็นกลิ่นหนึ่งที่ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบาย
นอกจากนั้นบางครั้ง กลิ่นยังช่วยรำลึกความหลัง และช่วยสร้างแรงบันดาลใจเนื่องจาก กลิ่นเป็นอีกหนึ่งสัมผัสที่ช่วยสร้างประสบการณ์ให้กับเราได้อย่างดี ทำให้กลายเป็นตัวกระตุ้นความทรงจำที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ เช่น หากเราคิดถึงช่วงวันหยุด เราก็สามารถเลือกใช้กลิ่นที่เราเคยได้กลิ่นมาในช่วงวันหยุด
เพื่อรำลึกถึงความรู้สึก ความทรงจำเหล่านั้น และนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจต่อไป
แต่นอกจากกลิ่นแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าแค่เพียงวางเทียนหอมอยู่เฉยๆ ห้องของเราก็ดูดีขึ้นมาได้แบบทันตาเห็น เทียนหอม จึงมักจะถูกใช้เป็น “อุปกรณ์ตกแต่งห้อง”
เพราะดีไซน์ของเทียนหอมนั้นมีมากมายหลายแบบทั้งแบบโหลแก้ว ขวดแก้ว หรือเป็นรูปทรงน่ารักๆ อย่างขนมเค้ก หรือรูปทรงสวยๆ ที่เหมาะแก่การวางตกแต่ง ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องให้น่าอยู่มากขึ้น และสบายใจที่จะอยู่ในห้อง และในข้อสุดท้าย ถ้าหากว่าอยู่มาวันหนึ่งเกิดไฟดับขึ้นมา
เราก็ยังมีเทียนไว้ให้จุด แถมมีกลิ่นหอมช่วยปลอบประโลมอีกด้วย แต่ถึงแม้เทียนหอมจะดูมีข้อดีมากมาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เทียนหอมมีราคาที่สูง แต่คนก็ยังยอมที่จะซื้อ
จริงๆ แล้ว เทียนหอมดีๆ ก็ต่างจากเทียนทั่วไป โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของน้ำมันหอมที่นำมาใส่ในเทียนหอม ก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญ
เพราะถ้าน้ำมันหอมระเหยที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจก่อให้เกิดสารพิษมากกว่าที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
นอกจากนี้ยังรวมถึงความซับซ้อนของกลิ่นในตัวเทียนหอม ก็เป็นตัวกำหนดราคาของเทียนหอมเช่นกัน
ยิ่งเทียนหอมที่มีความซับซ้อนของกลิ่นเยอะ ก็ยิ่งจะมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงขึ้น เพราะต้องใส่กลิ่นหลายกลิ่น ทำให้มีต้นทุนราคาที่สูงมากขึ้น ทั้งหมดนี้ จึงสรุปได้ว่าสำหรับคนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับ “กลิ่น”
ก็คงเปรียบเหมือนกับจ่ายเพื่อ “สร้างประสบการณ์” เหมือนบางคนที่มีความสุขกับการชอปปิง
แต่บางคนก็อาจจะเลือกสร้างความสุขด้วยกลิ่นหอมแทน ก็เป็นได้
ที่มาเพจลงทุนเกิร์ล
References:
ดีลปังลดเดือดสูงสุด 50% + คูปองลดเพิ่ม ผ้าคลุมถังน้ำดื่มPEตู้น้ำร้อนน้ำเย็น