ประชาชนมีสิทธิป้องกันตัวเมื่อตำรวจจับกุมตรวจค้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประชาชนมีสิทธิป้องกันตัวเมื่อตำรวจจับกุมตรวจค้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จับ!!จั่บ!!จั้บ!!จั๊บ!!จั๋บ!! ไม่ได้มาผันสระหรือเล่นวรรณยุกต์นะ!!แต่!!อันเรื่องจับหรือโดนจับนี่ เป็นใครโดนเข้าไปชีวิตมันเปลี่ยนนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับโดยตำรวจผู้หมวดผู้กอง สำหรับประชาชนอย่างเราๆท่านๆ มันหมายถึงเส้นยาแดงผ่าแปดเลย คุก!!ตาราง!! มันอยู่แค่เบื้องหน้าเอง!!
ดังนั้นการจับหรือการตรวจค้นของตำรวจกฎหมายจึงกำหนดขั้นตอนและขอบเขตเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่ใส่ครึ่งท่อนหรือใส่เครื่องแบบเดินเข้าบ้านใครสุ่ม!!สี่สุ่ม!!ห้าก็ได้นะ กฎหมายไม่ให้ตำรวจจับใครแบบอำเภอใจนะ!!
เมื่อตำรวจจับหรือตรวจค้นโดยไม่ชอบตามกฎหมายประชาชนสามารถใช้สิทธิในการป้องกันตัวเองและทรัพย์สินได้ตามสมควร เรียกว่าถ้าเห็นว่าไม่ใช่ว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย การสวนกันแบบสมน้ำสมเนื้อเพื่อปกป้องตัวเองและทรัพย์สินกฎหมายให้ทำได้
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตน หรือของผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตน หรือของผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
ฎีกา8722/2555
ประชาชนมีสิทธิสวนโดยป้องกันต้นได้เหมือนกัน
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุทธาวาสไม่ใช่หลังซอยโรงถ่านตามที่สิบตำรวจโท ก. และสิบตำรวจตรี พ. อ้างว่ามีอาชญากรรมเกิดขึ้นประจำแต่อย่างใด และจำเลยไม่มีท่าทางเป็นพิรุธคงเพียงแต่นั่งโทรศัพท์อยู่เท่านั้น การที่สิบตำรวจโท ก. และสิบตำรวจตรี พ. อ้างว่าเกิดความสงสัยในตัวจำเลยจึงขอตรวจค้น โดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดความสงสัยในตัวจำเลย จึงเป็นข้อสงสัยที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกเพียงอย่างเดียว ถือไม่ได้ว่ามีเหตุอันควรสงสัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 93 ที่จะทำการตรวจค้นได้ การตรวจค้นตัวจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยซึ่งถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อป้องกันสิทธิของตน ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใด ๆ อันสืบเนื่องจากการปฏิบัติที่ไม่ชอบดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุทธาวาสไม่ใช่หลังซอยโรงถ่านตามที่สิบตำรวจโท ก. และสิบตำรวจตรี พ. อ้างว่ามีอาชญากรรมเกิดขึ้นประจำแต่อย่างใด และจำเลยไม่มีท่าทางเป็นพิรุธคงเพียงแต่นั่งโทรศัพท์อยู่เท่านั้น การที่สิบตำรวจโท ก. และสิบตำรวจตรี พ. อ้างว่าเกิดความสงสัยในตัวจำเลยจึงขอตรวจค้น โดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดความสงสัยในตัวจำเลย จึงเป็นข้อสงสัยที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกเพียงอย่างเดียว ถือไม่ได้ว่ามีเหตุอันควรสงสัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 93 ที่จะทำการตรวจค้นได้ การตรวจค้นตัวจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยซึ่งถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อป้องกันสิทธิของตน ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใด ๆ อันสืบเนื่องจากการปฏิบัติที่ไม่ชอบดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
สรุปการจับหรือตรวจค้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระวัง!!เจ็บตัวเพราะกฎหมายให้ประชาชนปุถุชนมีสิทธิป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนได้ตามสมควร เรียกว่า!! ถ้าใช้อำนาจบาตรใหญ่ ประชาชนก็มีสิทธิสวนได้เหมือนกัน
cr:เพจทนายเพื่อคุณ