ทุกวันนี้สรรพสามิตออกมาล่อซื้อน้ำส้มตามตลาดกันแล้วเหรอ!!
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่เรื่องราวถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตล่อซื้อน้ำส้ม จำนวน 500 ขวด ก่อนที่จะถามหาใบอนุญาต พร้อมกับเรียกเงินค่าปรับจำนวน 12,000 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันขณะนี้ !!
ถือว่าเป็นเรื่องแปลก ที่นานๆเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จะบุกตลาดไล่จับพ่อค้าแม่ค้าขายน้ำส้ม แถมดันขยันจับในยุคเศรษกิจฝืดเคืองแบบนี้ ซึ่งหากจะมองการจับของสรรพสามิตตามกฎหมายในครั้งนี้ ถือว่าใช้อำนาจแปลกๆ
เพราะโดยปกติสรรพสามิตจะออกจับ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตซึ่งในสินค้าประเภทนี้จะต้องเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม หรือนำเข้าสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย แต่หากกรณีเพียงพ่อค้าแม่ค้ามาผลิตขายตามตลาดสด
ก็ไม่น่าที่จะอยู่ในความหมายของผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่จะต้องเสียภาษี สรรพสามิต และแม้นำส้มประเภทนี้ จะเป็นเครื่องดื่มประเภทปิดผนึก ที่จะต้องอยู่ภายใต้ การควบคุมตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก ซึ่งต้องมีการควบคุมในเรื่องคุณภาพของวัสดุที่นำมาผลิต รวมถึงการปิดฉลาก อีกทั้งต้องได้รับ อย.ก็ตาม แต่นั้นการตรวจสอบก็น่าที่จะอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานอาหารและยา
ที่จะออกตรวจจับ แต่ครั้งนี้การทำงานของสรรพสามิตจึงดูแปลกๆ ที่ออกมาล่อซื้อน้ำส้ม แถมสั่งจำนวนมากถึง 500 ขวด เพื่อให้ใกล้เคียงกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ที่จะอยู่ในอำนาจของตนเองที่จะตรวจจับ
ซึ่งตามระเบียบสรรพสามิต ผู้นำจับจะได้รับส่วนแบ่งถึง 20% ของค่าปรับ งานนี้จึงดูออกมาไม่เนียน สมควรแล้วที่ชาวบ้านเค้าจะโวยกัน.
คำพิพากษาฎีการที่ 4077/2549 “
การที่ผู้เสียหายใช้ให้ อ.สั่งให้จำเลยซื้อแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ของกลางจากตลาดนัดให้ เพื่อที่จะได้หลักฐานในการกระทำความผิดโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น
เพื่อการค้าด้วยความสมัครใจของตนเองมาก่อน และพร้อมที่จะจัดหาแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวทันที การที่ผู้เสียหายดำเนินการแสวงหาพยานหลักฐานด้วยตนเองแล้วแจ้งความร้องทุกข์เพื่อนำพนักงานตำรวจจับกุมจำเลย
จึงเป็นกรณีที่ผู้เสียหายได้จูงใจหรือล่อให้จำเลยกระทำผิด ไม่ถือว่าเป็น ‘ผู้เสียหาย’ ตามกฎหมาย”
ซื้อผ้าคลุมถังน้ำตู้ทำน้ำร้อนน้ำเย็น Shopee คลิก https://shp.ee/66b3f68