หนุ่มสาวออฟฟิศ มีปัญหาท้องผูกที่คนส่วนใหญ่ยังมองข้าม ระวังมะเร็งลำไส้ได้ในอนาคตได้


ในขณะที่การดูแลสุขภาพกำลังเป็นเทรนด์ที่คนไทยให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แพ้เทรนด์แฟชั่นหรือความงาม เห็นได้จากฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ผุดราวดอกเห็ด การออกกำลังกายในรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้นมากมาย เช่นการเต้นซุมบ้า การปั่นจักรยานอินดอร์ การเล่นโยคะบนเซิร์ฟบอร์ด เป็นต้น รวมไปถึงอาหารเพื่อสุขภาพต่างๆ อย่างอาหารคลีน อาหารออแกนิก ก็มีพร้อมส่งขายกันเต็มสังคมออนไลน์ แม้ว่าจะราคาสูงแค่ไหน แต่หลายๆคนก็ยอมทุ่มเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ยังมีอีก 1 ปัญหาสุขภาพที่คนส่วนใหญ่ยังมองข้ามและคิดว่าไม่เร่งรีบที่จะต้องแก้ไข แต่เป็นปัญหาที่สำคัญนั่นคือ ปัญหาด้านการขับถ่ายหรือปัญหาท้องผูก ปัจจุบันพบว่ายังมีคนไทยมากกว่า 14 ล้านคนมีปัญหาท้องผูก ซึ่งถือเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญเพราะนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งลำไส้ได้ในอนาคตอีกด้วย!!! 

    • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ถูกวินิจฉัยพบมากที่สุดในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย 2.1 เท่า
    • พบมากในคนทำงานที่มีอายุ 30-45 ปี
    • พบเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มโรคมะเร็งสำหรับเพศหญิง
    • พบเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มโรคมะเร็งสำหรับเพศชาย
  • และนับเป็นโรคที่ตรวจพบในระยะแพร่กระจาย (ระยะที่ 4) มากเป็นอันดับ 1!!!
  •      นั่นหมายความว่า กว่าจะตรวจพบก็เกือบจะสาย หรือ บางครั้ง ก็สายไปเสียแล้ว
         ในทุกๆวัน เราควรขับถ่ายให้เป็นนิสัยและเป็นเวลา โดยช่วงเวลาที่เหมาะกับการขับถ่ายมากที่สุดคือช่วงเช้า หากคุณพลาดช่วงนาทีทองแห่งการขับถ่าย คือ เวลา 05.00 – 07.00 ในทุก ๆ เช้า ร่างกายอาจจะดูดน้ำและของเสียบางอย่างกลับเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะทำให้ขับถ่ายลำบากขึ้น ผลที่ตามมาคือ ไม่เพียงแต่จะทำให้หงุดหงิดง่าย อึดอัด แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคท้องผูก โดยอาการท้องผูกคือ อาการที่ไม่ขับถ่ายเกินกว่า 3 วัน จนอุจจาระแข็ง ถ่ายได้ยากขึ้น นำไปสู่โรคริดสีดวง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในอนาคต

 ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก คือเรื่องอาหารการกิน พฤติกรรมการใช้ชีวิต และความเครียด ซึ่งถือเป็นภัยร้ายตัวการของปัญหาสุขภาพนานับประการ โดยเฉพาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน แต่ละวันต้องเผชิญกับความเครียดจากหลายด้าน ตั้งแต่ตื่นนอนก็ต้องเร่งรีบทุกอย่างเพื่อฝ่าฟันรถติดไปให้ทันเวลาเข้างาน หลังเลิกงานกว่าจะกลับถึงบ้านดึกดื่น ใช้ชีวิตอยู่ในรถและโต๊ะทำงานเสียเป็นส่วนใหญ่ ความเครียดเป็นตัวการก่อโรคและนำไปสู้ปัญหาสุขภาพมากมายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจ โรคความดัน โรคออฟฟิศซินโดรม รวมไปถึงทำให้เกิดอาการท้องผูกด้วยเช่นกัน เพราะความเครียดเป็นอีกสาเหตุหลักที่ส่งผลต่อการทำงานของผนังลำไส้ ทำให้เกิดการบีบตัวผิดปกติ ยิ่งรวมกับพฤติกรรมการทานอาหารที่เร่งรีบ รับประทานผักผลไม้น้อยไป ดื่มน้ำน้อย แถมยังทานอาหารปิ้งย่าง หรืออาหารบุฟเฟต์เป็นประจำ ก็จะส่งผลให้กากอาหารแข็ง  จนทำให้เกิดอาการท้องผูก ซึ่งจัดเป็นความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้อยู่ไม่น้อย
จุลินทรีย์สุขภาพทางแก้ที่ปลอดภัยของปัญหาท้องผูกและหนึ่งในวิธีป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
     ในร่างกายของเรามีจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ ทำให้มีสุขภาพที่ดี และช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ เราจึงควรดูแลให้จำนวนจุลินทรีย์ในลำไส้ของเรามีความสมดุลอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีกากหรือเส้นใยสูง (high fiber) เพื่อเป็นอาหารให้แก่จุลิทรีย์ที่ดีได้เติบโตและดูแลลำไส้ของเรา 
แนะนำ Pancea Fiber แพนเซีย ดีท็อกซ์
    ขจัดของเสีย ไขมันตกค้าง อาหารเสริม ดีท็อกซ์ ล้างไขมันสะสม สิ่งตกค้าง และของเสียในร่างกาย ทำความสะอาดลำไส้ ส่งผลให้ พุงยุบลง ผิวพรรณดีขึ้น สว่างเปล่งปลั่ง ใบหน้าสดใส ขับถ่ายดีขึ้น เพื่อให้พร้อมรับสารอาหารที่มีประโยชน์ พร้อมมีสุขภาพที่ดี ปรับสมดุลลำไส้และระบบขับถ่าย 
สร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้ขับถ่ายดี แก้ปัญหาโรคท้องผูกอันอาจนำไปสู้โรคมะเร็งลำไส้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอื่น ๆ ที่บริเวณลำไส้อีกด้วย  
     หากต้องการแก้ไขปัญหาท้องผูกการรับประทานPancea Fiber ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัย  เหมาะกับไลฟ์สไตล์หนุ่มสาวออฟฟิศที่มีชีวิตเร่งรีบ และยังได้ประโยชน์เต็มที่ ดีต่อร่างกาย ต้องรู้จักดูแลบริหารอารมณ์ของเราควบคู่ไปด้วย ด้วยการลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส  หาสิ่งที่บันเทิงใจในยามว่าง เช่นการดูหนัง ฟังเพลง การออกกำลังกายเบาๆ เช่น เล่นโยคะ วิ่งจ็อกกิ้ง เป็นต้น การคลายเครียดจะส่งผลต่อการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ จะช่วยให้ลดการเกิดท้องผูกได้ดี
     เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องเป็นโรคร้าย สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนชาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ ท่านๆ พอจะทำได้ง่ายๆคงหนีไม่พ้นการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แล้วคุณจะรู้ว่าแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ชีวิตก็จะดีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วจริง ๆ